วันอังคารที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2556

nami


ชื่อภาษาญี่ปุ่นナミ
ชื่อภาษาอังกฤษNami
ฉายานางมาร,โจรขโมยโจรสลัด,แมวขโมย
สังกัดโจรสลัดหมวกฟาง
ยศสูงสุด{{{rank}}}
ปรากฏตัวในต้นฉบับหนังสือการ์ตูน
ปรากฏตัวครั้งแรกหนังสือการ์ตูนตอนที่ 8
แอนิเมชัน ตอนที่ 1
วันเกิด{{{birthday}}}เผ่าพันธุ์มนุษย์
ประวัติตามท้องเรื่องนามิเป็นต้นหนของเรือ และเป็นคนที่ 3 ของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง เธอเป็นคนแรกของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางที่โผล่มาในอะนิเมะ ในหนังสือ เธอเป็นคนที่ 3 ที่ยอมร่วมกลุ่มจริงๆ ก็เป็นคนที่ 5 เธออาจจะเป็นต้นหนที่ดีที่สุดในแกรนด์ไลน์ และเธอก็เป็นนักล่าสมบัติอีกด้วย นอกจากนี้เธอยังเป็นนักล้วงกระเป๋าที่ชำนาญมาก ๆ ด้วย
นามิเป็นต้นหนที่ดีมาก สามารถบ่งบอกความแตกต่างของอากาศได้ ทำให้กลุ่มโจรสลัดหมวกฟางหลุดพ้นจากอากาศแสนวุ่นวายของแกรนด์ไลน์ได้ มีอยู่ 2 อย่างที่เธอชอบที่สุดนั่นคือ เงิน และ “Mikan” ซึ่งเป็นส้มชนิดหนึ่ง เพราะเธอรักเบลล์เมียร์ซึ่งคือแม่เลี้ยงของเธอ ความฝันของนามิคือการได้วาดแผนที่โลกที่สมบูรณ์แบบของโลก ซึ่งเป็นสิ่งที่ยังไม่สำเร็จสำหรับทุกคนเป็นเพราะทะเลที่ห้าวหาญของแกรนด์ไลน์ แผนที่แรกที่นามิวาดคือแผนที่ของเกาะที่หมู่บ้านโคโคยาชิอยู่
ลักษณะของนามิคือ มีรอยสักที่แขนด้านซ้ายของเธอ ซึ่งหมายถึง “Mikan” ซึ่งเป็นส้มชนิดหนึ่ง และเกวียน หมายถึงอดีตของเธอ ซึ่งตอนแรกจะเป็นรอยสักที่บ่งบอกว่าเป็นพวกของกลุ่มโจรสลัดอารอน เธอมีความสูง 169cm สัดส่วน 36-22-36 อาจารย์โอดะเคยบอกว่านามิถูกเปรียบเทียบเหมือนกับแมว และสีที่บ่งบอกเกี่ยวกับเธอคือสีส้ม มีกลิ่นตัวเหมือนส้ม “Mikan” และเงิน อาจารย์โอดะก็บอกด้วยว่า สิ่งที่นามิชอบกินที่สุดคือส้มและผลไม้ทุกชนิด
ในเรื่องของการต่อสู่ นามิไม่ชำนาญในด้านการต่อสู้เหมือนทุกคนในกลุ่ม แต่เธอก็ยังสามารถป้องกันตัวได้อย่างเล็กน้อยด้วยกระบองของเธอ และสามารถกำจัดโจรสลัดธรรมดาๆ หรือทหารเรือธรรมดาได้ แม้จะมีปัญหาเล็กน้อย เธอสามารถปล่อยพลังโจมตีที่ทั้งเร็วทั้งแรง และเมื่อเธออยู่ที่อลาบาสตาและหลังจากนั้น เธอใช้กระบองที่มีความสามรถเปลี่ยนสภาพอากาศอยู่ข้างในที่อุซปสร้างให้ ตอนแรก ๆ กระบองถูกสร้างมาเพื่อใช้ในงานปาร์ตี้ แต่เมื่อนำท่าต่าง ๆ มาใช้ร่วมกันแล้ว นามิเปลี่ยนกระบองที่ใช้ในงานปาร์ตี้มาเป็นกระบองที่แสนอันตราย แต่หลังจากนั้น กระบองคุริมะได้กลายเป็น “กระบองคุริมะ ฉบับสมบูรณ์” ซึ่งกระบองนี้สามารถทำลายกลุ่มทหารเรือได้กลุ่มใหญ่เลย เทคนิคบางอย่าง คือ “ทันเดอร์โบลท์ เทมโป” ที่ใช้คูลบอลกับฮีทบอลผสมกันให้เป็นเมฆ และส่งทันเดอร์บอลไปบนเมฆทำให้เกิดสายฟ้าฟาดขนาดใหญ่และสามารถสร้างภาพมิราจ เป็นต้น แต่ต่อมาอีก 2 ปี นามิได้อยู่บนเกาะท้องฟ้าที่ใช้วิทยาศาสตร์ในการควบคุมสภาพอากาศกระบองคุริมะจึงเปลี่ยนเป็น "กระบองคุริมะซอคเซรี่"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น